เมื่อพูดถึงวงในตำนานอย่าง Queen ด้วยฉายา “ราชาในนามราชินี” คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับวงดนตรีสัญชาติอังกฤษ วงนี้อย่างแน่นอน ควีนประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 4 คน ตำนานของ Queen เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 จากการออกอัลบัมกับค่าย EMI ในปีเดียวกัน จากนั้นก็ได้เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตในอีก 3 ปีต่อมา
ผลงานของวงมีทั้งหมด 18 อัลบัมกับบทเพลงกว่าร้อยเพลง ด้วยความผสมผสานของเทคนิคการร้องและการนำเสนอ จนเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะลอกเลียนแบบ ถือเป็นรสชาติใหม่ทางดนตรีในช่วงยุค70 - 80’s ที่เหล่าแฟนเพลงฟังแล้วเป็นต้องตกหลุมรัก จนติดชาร์ตอันดับ 1 ในหลายๆ ประเทศอยู่หลายสัปดาห์ กวาดรายได้จากการขายแผ่นเสียงและการทัวร์คอนเสิร์ตไปอย่างมหาศาล เพื่อให้เข้ากับเทศกาลวันวาเลนไทน์ นอกจากเรื่องราวที่น่าสนใจของวงแล้ว ยังมีอีกเรื่องราวของ “Freddie Mercury” นักร้องนำ กับเรื่องราวความรักที่น่าประทับใจของเฟรดดี้ ที่เราจะเสนอต่อจากนี้
ภาพจาก IG : Freddiemercury
ความรักครั้งแรกของเฟรดดี้เริ่มจากการพบ แมรี่ ออสติน หญิงสาวที่ทำงานอยู่ในร้านค้าบูติก ในขณะนั้นเฟรดดี้ยังไม่ได้โด่งดังมากนักแต่ก็เริ่มผลงานเล็กๆ น้อยๆ ในวงการบ้างแล้ว แต่ด้วยออร่าความเป็นศิลปินและสไตล์การแต่งตัวที่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้ออสตินสนใจและอยากรู้จักเฟรดดี้ให้มากขึ้น จนในที่สุดเขาทั้งคู่ก็ได้คบหาดูใจกัน
สาวน้อยออสตินเป็นคนรักที่อุทิศตนเองให้กับเฟรดดี้อย่างมาก ทั้งเรื่องการให้กำลังใจ การดูแลเอาใจใส่โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ และไม่ได้ตั้งคำถามกับนิสัยที่หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องแปลกของเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เฟรดดี้รักเธอมาก ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่เรียกได้ว่าเป็นความรักที่มากกว่าคู่รัก มากว่าเพื่อน มากกว่าครอบครัว เฟรดดี้จึงขอออสตินแต่งงานในคืนวันคริสต์มาส ด้วยแหวนหยกในกล่องปริศนา จากความโรแมนติกและจริงใจของเขา เธอจึงตอบตกลงและย้ายมาอยู่ด้วยกันในที่สุด
ภาพจาก catbumb และ IG :missmercuryy_
วันเวลาผ่านไปความรักของทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะไปด้วยดี เฟรดดี้ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตและออกอัลบัมแรกในนาม Queen สร้างความโด่งดังไปทั่วสหราชอาณาจักรไปจนถึงอเมริกา ด้วยความห่างเหินจากคนรักและแสงสี ทำให้เขาค้นพบบางอย่างในตนเอง คืนหนึ่งเฟรดดี้ได้ตัดสินใจบอกกับแฟนสาวถึงการเป็นไบเซ็กชวลของตนเอง เพราะเขาเริ่มมีความรู้สึกทางเพศที่ตอบสนองทั้งเพศชายและหญิง แต่ก็ไม่อยากให้ออสตินหายไปจากชีวิต เมื่อเธอได้ได้รู้ถึงเรื่องราวดังกล่าวทำให้สาวน้อยออสตินใจสลายเป็นอย่างมาก เธอบอกกับเฟรดดี้ว่า “ไม่เฟรดดี้ฉันไม่คิดว่าคุณเป็นไบเซ็กชวล ฉันคิดว่าคุณเป็นเกย์” จากนั้นความสัมพันธ์ในรูปแบบคู่รักของทั้งคู่ก็จบลง เหลือเพียงความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน โดยก่อนที่ความสัมพันธ์จะจบลงเฟรดดี้ได้บรรยายถึงความรักที่มีต่อออสตินไว้ในเพลง Love of My Life
หลังจากนั้นควีนก็ได้ออกอัลบัมและทัวร์คอนเสิร์ตสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับวงการเพลงร็อคจนโด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ และ Queen ก็ได้ไต่เต้ามาเป็นวงดนตรีแนวหน้าของโลกภายในเวลาต่อมา แต่ภายในใจของเฟรดดี้ยังคงรัก ห่วงใยออสตินอยู่เหมือนเคย เขาซื้ออพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่ระแวกเดียวกันกับบ้านของตัวเอง เพื่อให้ออสตินยังคงอยู่ใกล้ๆ เขาเหมือนที่เคยเป็น ถึงแม้ว่าในที่สุดเธอจะมีคนรักใหม่ ก็ยังคอยห่วงใยและคอยเป็นกำลังใจให้เฟรดดี้อยู่เสมอ
แต่กับเฟรดดี้มันไม่ง่ายเลย เขายินดีแต่ก็เสียใจที่ได้ยินข่าวรักครั้งใหม่ของออสตินด้วย จึงเริ่มประชดชีวิตด้วยการจัดปาร์ตี้วันเกิดที่หลุดโลกที่สุดในยุคนั้น เฟรดดี้เริ่มติดแอลกอฮอล์ ใช้สารเสพติด มั่วเซ็กส์ภายในอพาร์ตเมนต์ และสุดท้ายเฟรดดี้ก็ได้แยกตัวออกจาก Queen ที่เป็นอีกครอบครัวหนึ่งของเขา หลังจากนั้นเขาได้ออกอัลบัมเดี่ยวและทัวร์คอนเสิร์ตในฐานะศิลปินเดี่ยวแต่ในความโชคร้ายของเฟรดดี้ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นกับเขาเช่นกัน ในคืนปาร์ตี้วันเกิดในปีหนึ่งเขาได้พบกับ จิม ฮัตตัน ที่ต่อมาได้คบหาดูใจกับฮัตตัน ถือเป็นคู่รักร่วมเพศที่หวังดีและจริงใจกับเขาไม่แพ้กับออสติน ช่วงแรกของความสัมพันธ์เขาไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะถึงการเป็นไบเซ็กชวล มีเพียงอดีตคู่มั่นและคนสนิทเท่านั้นที่รู้ ว่าเขาคบกับฮัตตัน ตลอดระยะเวลา 7 ปี ฮัตตันเป็นอีกบุคคลที่ร่วมผ่านช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของนักร้องนำในตำนานคนนี้ และเป็นบุคคลที่ดูแลเฟรดดี้จนลมหายใจสุดท้าย
ภาพจาก IG : mercuryfreddie46
เนื่องจากเฟรดดี้ได้เสียชีวิตลงจากการติดเชื้อ HIV เมื่อเขารู้ตัวก่อนมีคอนเสิร์ต Live Aid ที่เป็นการกลับมารวมตัวกันครั้งแรกและการแสดงครั้งสุดท้ายของ Queen เหล่าแฟนๆ ต่างตั้งหน้าตั้งตารอมาตลอดหลายปี โดยการแสดงของ Queen ได้แย่งซีนทั้งคอนเสิร์ต ด้วยการแสดงเพียง 20 นาทีเท่านั้น! ก่อนที่เขาจะประกาศตัวว่าป่วยเป็นโรคเอดส์จนต้องงดการแสดงสดของ Queen ในหลายๆ คอนเสิร์ตและเฟรดดี้ก็เสียชีวิตลงที่บ้านของตนเอง ในปี 1991
เรื่องราวของความเป็นมาของ Queen และเรื่องราวความรักของเฟรดดี้ยังคงสวยงามและตราตรึงใจของผู้ฟังเสมอมา แม้ว่าเฟรดดี้จะเจอแต่ความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งทางด้านสังคมและความสัมพันธ์ แต่สุดท้ายความจริงใจและเจตนาที่บริสุทธิ์ของเขา ทำให้เฟรดดี้มักจะได้รับความรักที่ดีกลับมาเสมอ
- ขอบคุณแหล่งข้อมูล RollingStone และ New York Post -