จะรอผู้ชายทักไปทำไม เมื่อ “Bumble” แอปหาคู่ที่ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายรุก !
Share this



 

แอปพลิเคชันหาคู่ หรือ Dating app ในยุคนี้มีให้เลือกใช้ค่อนข้างหลากหลาย แต่แอปหาคู่ ที่จะให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้หญิงแบบแอป Bumble คงมีเพียงหนึ่งเดียว เมื่อแอปให้ผู้หญิงรับบทเป็น “ฝ่ายรุก”  ยอดดาวน์โหลดแอปก็เลยถล่มทะลาย เมื่อปี 2018 ก็มีการประเมินว่ามูลค่ากิจการของ Bumble ทะยานเกิน 1,000 ล้านเหรียญถือว่าเป็นสตาร์ทอัพ ยูนิคอร์นไปแล้ว ยอดดาวน์โหลดในปี 2019 Bumble ก็เป็นแอปเดตอันดับ 2 ในอเมริกาที่มี ผู้ใช้ประมาณ 5 ล้านคน แต่ในประเทศไทย ยังไม่ค่อยเห็นคนพูดถึงหรือใช้แอปนี้สักเท่าไหร่ 



 คุณ วิทนีย์ วูล์ฟ ฟอร์ด ผู้ก่อตั้งได้เปิดตัว Bumble ในปี 2014 เธอบอกว่าเธอได้รับ แรงบันดาลใจในการสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มเอง แอปนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ฉีกจากกรอบเดิม ๆ ของแอปหาคู่อื่น ๆ คือเฉพาะผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถติดต่อกับผู้ใช้ชายที่ Match กัน เป็นครั้งแรกในขณะที่การจับคู่เพศเดียวกันสามารถส่งข้อความก่อนได้ บอกเลยว่าแอป Bumble ได้ลบ mindset ของคนที่คิดว่าผู้ชายต้องเข้าหาผู้หญิง 


เป็นแอปแห่งชาว “เฟนิมิสต์” ที่แท้ทรู หากคุณผู้หญิง Match กับคุณผู้ชายที่ถูกใจไปแล้วจะมี เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้นที่จะทักไปหาชายนั้น เพราะอีกฝ่ายจะทักหาเราไม่ได้ต้องรอเราทักก่อน หรือถ้าเวลา ล่วงเกิน 24 ชั่วโมงไปแล้วถ้าคุณผู้ชายอยากจะรอให้เธอทักมาอีกก็สามารถเพิ่มเวลา ในการรอได้อีก 24 ชั่วโมง แต่ถ้ารอแล้วรออีกยังไม่มีการส่งข้อความจะถือว่าการ Match สิ้นสุดลง 

ทันที และก็ปัดซ้ายปัดขวากันต่อไป 




  • เลือกได้ว่าจุดประสงค์ในการเล่นเพื่อหาคู่เดท หรือหาเพื่อนเท่านั้น




  • เลือกช่วงอายุของอีกฝ่ายที่คุณสนใจ






  • มีให้เลือกว่าคุณสนใจผู้ชาย ผู้หญิง หรือทุกเพศ



  • สามารถเพิ่มความสนใจพิเศษของคุณ 





แหล่งที่มาข่าว : Bumble's founder and CEO Whitney Wolfe Herd talks building Bumble — and fighting for gender equality • US dating apps by audience size 2019


แหล่งที่มาภาพ : Bumble – Dating, Make New Friends & Networking - Apps on Google Play businessinsider.com




Share this