1.ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายคือวิธีระบายความโกรธ ระบายความเครียด ที่ดีที่สุด ได้ผลที่สุด ลงทุนน้อยที่สุด และได้กำไรมากที่สุด เพราะการออกกำลังกายเป็นวิธีคลายเครียดที่ทำคนเดียวได้ ไม่ต้องพึ่งคนอื่น ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องเสียเงินมากเพื่อให้หายเครียด ไม่ว่าจะเข้าฟิตเนส ว่ายน้ำ วิ่งตามสวนสาธารณะ หรือเปิดคลิปวีดีโอออกกำลังกายที่บ้าน ช่วยให้เราลืมเรื่องเครียดๆไปได้ชั่วขณะ สมองได้พัก ซึ่งในขณะที่ออกกำลังกายสมองจะหลั่งสารเคมีคลายเครียด ทำให้เราสงบ คิดอะไรได้มีเหตุมีผลมากขึ้นความโกรธ ความเครียดที่เคยมีก็หายไป แถมแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ
2.เจริญสติ
เข้าสู่ความสงบด้วยการเจริญสติ การเจริญสติคือ ฝึกจิตใจให้พบกับความนิ่งและสงบ ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดลมหายใจเข้าออก หรือแม้แต่ การเฝ้าดูจิต สำรวจความคิดภายในให้รู้เท่าทันอยู่เสมอ วิธีเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ จิตใจสงบนิ่ง ช่วยสร้างความผ่อนคลาย และยังช่วยสร้างสมาธิได้อีกด้วย
3.ทบทวนตัวเอง
การได้จัดการกับความคิดตัวเองให้เป็นระบบก็เป็นการคลายเครียดได้อีกวิธีหนึ่ง
เพราะเมื่อเราเข้าใจเหตุและยอมรับผลของเหตุการณ์ รวมถึงมองหาทางออกได้แล้ว
ใจเราก็จะสงบ
แต่ก่อนอื่นต้องทบทวนตัวเองว่า เราเครียดเรื่องอะไรกันแน่ ลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วใช้สติค่อยๆ คิดพิจารณาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเหตุและผลอย่างไรบ้าง แต่การคิดทบทวนตัวเองคือการมองหาทางออกของความเครียด หาทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมองหลายๆ มุม หาทางเลือกไว้ 3-4 ทาง แล้วเลือกทางที่คิดว่าตัวเองจะมีความสุขที่สุด เพราะไม่มีเส้นทางไหนถูกหรือผิด หากเลือกไปแล้วยังเจอความเครียดก้อนใหม่อีก ก็ใช้วิธีเดิมในการจัดการต่อไป ไม่ว่าความเครียดจะถาโถมขนาดไหน แค่แก้ไปตามจังหวะก็นี้ชีวิตก็แฮปปี้ได้แล้ว
4.เล่าให้คนอื่นฟัง
เมื่อเกิดเหตุการณ์แย่ๆ หลายคนเลือกการเล่าให้คนสนิทฟัง ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว เพื่อนรัก คนรัก จะโทรศํพท์บอกเล่า หรือนัดพบกันก็ได้การเล่าให้คนอื่นฟังเป็นการระบายอารมณ์ที่ดี ทำให้สิ่งที่อัดอั้นไว้ในใจของเราได้ปลดปล่อย และอาจได้กำลังใจหรือแนวทางแก้ปัญหาจากมุมมองอื่นๆ กลับมาด้วยแต่บ่อยครั้งการเล่าให้คนอื่นฟังก็อาจทำให้เครียดกว่าเดิม เพราะเมื่อผู้ฟังแนะนำทางออกให้ เรากลับไม่ฟัง หรือทำตามไม่ได้ กลายเป็นทะเลาะกัน หาว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจ ดังนั้น หากคุณต้องการเล่าให้คนอื่นฟัง ก็ต้องมีสติในการรับฟังด้วย ส่วนด้านผู้ฟัง บางครั้งคุณต้องเข้าใจว่าคนที่กำลังเครียดมักจะหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องนั้นๆ ไม่สนใจทางออกใดๆ ทั้งสิ้น อย่าให้ความเครียด ความโกรธเพียงครั้งเดียวมาทำลายมิตรภาพคุณเลยจะดีกว่า
5.นินทา
การนินทาก็คล้ายๆ การเล่าให้คนอื่นฟัง แต่การนินทามักไม่ต้องการคำแนะนำเพื่อแก้ปัญหา แต่ทำไปเพื่อช่วยระบายอารมณ์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะนินทาเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ก็ถือเป็นการคลายเครียดที่ดี แต่ควรนินทาให้อยู่ในขอบเขตของเรื่องที่เครียด เช่น ถ้าจะบ่นเจ้านายเรื่องงาน ก็ไม่ควรหยิบเรื่องส่วนตัวอื่นๆมานินทา และไม่ควรนินทาคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก เช่น ลูกป่วย ครอบครัวแตกแยก เพราะจะทำให้ผู้ที่กำลังทุกข์นั้นทุกข์มากกว่าเดิม เราควรจะเห็นใจมากกว่าที่จะมาซุบซิบนินทา
6.พบจิตแพทย์
ถ้าหากลองใช้วิธีต่างๆ นานาด้านบนแล้วก็ยังไม่หายเครียด ไม่หายโกรธ อาจจะต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญอย่างจิตแพทย์ โดยจิตแพทย์ก็จะมีวิธีรักษาหลากหลายกันไป หลักๆ ก็คือ การทำจิตบำบัดและการกินยา จิตบำบัด วัตถุประสงค์ให้เราเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนวิธีเปลี่ยนพฤติกรรมแต่เดิมของเรา เช่น สาเหตุที่เราทุกข์มาก เครียดมาก โกรธบ่อยๆ อาจเป็นเพราะนิสัยบางอย่างที่ไม่เหมาะสม จิตแพทย์จะคอยชี้และวินิจฉัยว่าเราควรจะได้รับการรักษาแบบไหน ใช้วิธีพูดคุยอธิบาย หรือกินยา ยาลดความเครียด ยาต้านอารมณ์เศร้า ขึ้นอยู่กับอาการ ซึ่งยาปลอดภัยและไม่เสพติด และไม่จัดยากินเองบางคนอาจต้องกินยาตลอดชีวิต แต่ส่วนใหญ่ไม่ เพราะยาช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้น ปฏิบัติตัวได้ดีขึ้น เมื่อเรากระทำกับคนรอบข้างเปลี่ยนไป คนอื่นก็จะกระทำกับเราเปลี่ยนไปเช่นกัน ปัญหาที่เคยมีอาจหมดไปได้ และเมื่อดีขึ้นอย่างถาวร เราก็อาจจะหยุดยาได้นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก