พาส่องเทรนด์แฟชั่นฮิตตลอดกาล #Y2k #Fairy #CottageCore #Floral #oldmoney
Share this

            ปัจจุบันนี้ในโลกของเรานั้นมีแฟชั่นที่หลากหลายและหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา ที่แสนจะรวดเร็วทันใจ และเหมือนจะเปลี่ยนไปไวมากด้วย แต่ยังคงมีแฟชั่นที่ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่แฟชั่นเหล่านี้ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน พี่จะอยู่!


        

        Y2K (Year 2000) คือ เทรนด์แฟชั่นปลายปี 1990 จนถึงช่วงต้นปี 2000  เป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ด้วยช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน จากโลกแห่งยุคที่ไร้อินเทอร์เน็ตสู่โลกไร้พรมแดน ทำให้แฟชั่น Y2K ครองอิทธิพลแฟชั่นทั่วโลก!

        โดยบุคคลที่เป็นต้นแบบของแฟชั่นนี้ก็คือ บริตนีย์ สเปียส์  เรียกได้ว่าเป็นไอคอนิก ของ Y2K ที่ทำให้คนหันมาแต่งกายแฟชั่นนี้กันอย่างคึกคัก

        ในปี2022แฟชั่นนี้ก็กลับมาฮิตมากๆอีกครั้ง แต่จริงๆแล้วเนี่ยแฟชั่นเทรนด์นี้ไม่เคยหายไปไหนจากโลกใบนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าไอดอลเกาหลีที่สามารถเห็นแฟชั่นแนวนี้ได้ตามบนเสตจ หรือเน็ตไอดอลหลายคนก็แต่งแนวนี้มาตลอด เพียงแต่คนพึ่งหันมาแต่งลุคนี้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในช่วงปีนี้ จนถึงปัจจุบันในตอนนี้นั่นเองค่ะ มาๆ เดี๋ยววันนี้จะพาเพื่อนๆไปmix and match แฟชั่น Y2K ในแบบสไตล์ของตัวเองกัน!

        ก่อนอื่นมาดูไอเทมที่ต้องมีในการแต่ง Y2K โดยหลักๆจะเน้นไปที่กางเกงกระโปรงที่เป็นเอวต่ำกับเสื้อตัวจิ๋วรัดรูป มาพร้อมกับ accessory หลากหลายให้เลือกนำมาแต่ง

  • กางเกงยีนเอวต่ำ โชว์สะดือสวย

  • กางเกงคาร์โก้

  • เสื้อรัดรูปเอวลอยโชว์เอวฉ่ำๆ

  • เสื้อที่มีสีสันสดใส สีสดแสบตา 

  • เสื้อลายดอกลายใจ ขนดอกไม้มาทั้งสวน

  • กระโปรงลายสก็อต

  • เข็มขัด สร้อย หูฟัง กระเป๋า

        โดยเราสามารถหยิบจับไอเทมที่เรามีอยู่แล้วมาแมทช์ลุคได้หลากหลาย ในแบบสไตล์ของตัวเอง ใครที่ชอบใส่กระโปรงก็หยิบเสื้อเกาะอกตัวจิ๋วมาคู่กับเข็มขัด ก็ได้ลุคy2kที่ให้ความเซะซี่ๆ แต่ถ้าใครมาสายกางเกงก็สามารถหยิบกางเกงยีนทรงโปรดมาแมทช์เข้ากับเสื้อครอป เสริมด้วย Headphone ก็ส่งให้ลุคนี้ออกมาเท่กิ๊บเก๋มีสไตล์

ทั้งนี้แฟชั่น Y2K ก็ยังมีลูกเล่นให้ได้หยิบจับมาแมทช์ได้มากมาย ไม่มีกรอบหรือกฎเกณฑ์สำหรับแฟชั่นอยู่แล้ว!


        สำหรับสาวๆที่เป็นสายเรียบหรูดูแพง ชิคๆมาทางนี้กันด่วนๆ กับแฟชั่น old money แหมมมมมม บอกเลยว่าแค่ชื่อเนี่ยก็บ่งบอกถึงความแพงความรวย สาวริชชี่แล้วนะคะ แต่ถ้าใครที่คิดว่าการแต่งแฟชั่นนี้ต้องเป็นแค่เสื้อผ้าแบรนด์เนมขอ บอกเลยว่า คุณคิดผิด! ไม่ว่าใครเนี่ยก็สามารถเป็นสาว old money ได้นะคะ

        Old Money สไตล์เป็นการนำเอาแฟชั่นของเหล่าผู้ดีในช่วงยุค 60-70s มาประยุกต์เสริมแต่งให้เข้ากับแฟชั่นในยุคปัจจุบัน เป็นแฟชั่นที่เน้นความเรียบง่ายและมีความคลาสสิกในตัว เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเรียบหรูดูแพง ให้ความรู้สึกเหมือนคนคนนี้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ดูสวยหรูดูแพงจากข้างใน สะอาดเหมือนอาบน้ำวันละ18รอบแบบนั้นเลยแหละค่ะ

        ดยไอเทมที่ต้องมีในการแต่งลุคนี้ก็มีให้เราได้เลือกสรรหลากหลายแต่จะเน้นไปที่โทนสีเรียบๆไม่ฉูดฉาดจนเกินไป มีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ปราณีตไม่มีลวดลายเยอะ โลโก้แบรนด์ก็ไม่จำเป็นดังนั้นเนี่ยเราก็ไม่จำเป็นต้องใส่แบรนด์เนมแต่ก็ออกมาเป็นสาว old money เรียบหรูดูแพงทันสมัยได้นั้นเองค่ะ ในส่วนของเครื่องประดับก็ยังคงความเรียบหรูเน้นไปที่สีทอง 

        ซึ่งการแต่งแฟชั่นนี้จุดเด่นหลักๆคือการคุมโทน ไม่ว่าจะเป็นสีเอิร์ธโทน ความเรียบง่ายไม่หวือหวาตั้งแต่หัวจรดเท้า สีทั้งตัวต้องไปในทิศทางเดียวกัน หรืออาจจะมีการแมทช์สีที่ต่างแต่ต้องเข้ากันได้ดี

  • เสื้อเรียบๆดีไซน์น้อยๆแต่มีคุณภาพ 

  • เสื้อคาดิแกน  

  • เสื้อคอปก

  • สูทตัวเก่ง

  • กางเกง กระโปรงเรียบง่ายตัวโปรด

  • เครื่องประดับ สร้อย แหวน นาฬิกา แว่น สีทอง 

        

        มาต่อกันที่แฟชั่นที่ได้รับความนิยมมากในสายฮิปปี้ฮิปใจ อย่างเทรนด์แฟชั่นแฟรี่แฟใจ ที่ไม่ต้องติดปีกก็สามารถเป็นนางฟ้าโบยบินได้ด้วยการแต่งกาย ชื่อ “Fairy” นี้ก็บ่งบอกตามชื่อเลยค่ะ คือการแต่งกายเลียนแบบนางฟ้า แต่จะเป็นนางฟ้าในป่า ถ้าใครนึกไม่ออก ก็จะเป็นฟีลกินรีในป่าหิมพานต์แบบนั้น โดยสไตล์แฟรี่จะมีความคล้ายคลึงกับสไตล์โบฮีเมี่ยน แต่จะเป็นการแต่งโทนสีจากธรรมชาติ เช่นโทนสีในป่าไม้ เขียวจากใบไม้ น้ำตาลจากต้นไม้ ลวดลายจะไม่เยอะเท่าโบฮีเมียน  ในส่วนดีไซน์ของเสื้อผ้าจะเน้นไปที่เสื้อผ้าที่มีความพลิ้วไหว ฟุ้งๆ มีการดึงดีเทลลูกไม้มาเสริมความเป็นนางฟ้า และดึงเสื้อผ้าแนวซีทรูมาส่งให้มีความชวนฝัน การแต่งกายจะไม่ใช่แค่เลเยอร์เดียว จะเป็นการ mix and match เสื้อผ้าหลายชิ้นเป็นเลเยอร์หลายชั้น มีการใช้ผ้าต่อตัดแต่งเพิ่มเสริมเติมเข้าไป

    ไอเทมที่ต้องมีในการแต่งแฟรี่แฟใจนี้ ขอแนะนำว่าส่วนใหญ่สามารถหาซื้อได้ตามร้านมือสอง มักจะเป็นงานที่มีชิ้นเดียวผ่านการตัดเย็บเสริมแต่งมาแล้ว จะมีดีเทลเฉพาะตัวของตัวเอง หรือเมื่อเราซื้อมาก็สามารถมาสร้างเอกลักษณ์ให้กับชุดของเราเพิ่มได้ค่ะ

  • เสื้อสายเดี่ยวลูกไม้

  • เสื้อซีทรู,เดรสซีทรู

  • กระโปรงยาว พลิ้วไหวเหมือนร่ายรำอยู่ตลอด

  • กระโปรงสั้นที่มีความฟรุ้งฟริ้ง

  • เสื้อกั๊กเสริมเลเยอร์

  • เสื้อคลุมไหมพรมบางๆ

  • ถุงเท้าข้อยาวขนฟูๆ สร้อยยาวๆ รองเท้าหนังสีดำหรือสีน้ำตาล 

  • ปีกนางฟ้า ผีเสื้อ เพิ่มความสมจริง

        การแมทช์แฟรี่ออกมาในแต่ละลุคนั้นสามารถทำได้หลากหลาย โดยส่วนสำคัญจะอยู่ที่โทนสี ถ้าแต่งปุ้ปแล้ว ส่องกระจกคิดว่าตัวเองควรอยู่ในป่าแบบนั้นก็ใช่เลยค่ะ ถูกต้องเป้ะๆ อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้รู้ได้ทันทีว่าคุณกำลังแต่งตัวสไตล์แฟรี่อยู่นั้น คือการแต่งตัวหลายเลเยอร์โดยไม่สนสภาพอากาศประเทศไทย ที่แม้จะร้อนเหงื่อชุ่มแค่ไหนแต่ความสวยต้องมาก่อน ก็ผู้หญิงอะเนาะ เหงื่อฉ่ำแค่ไหนแต่ถ่ายรูปออกมาสวย คือ จบ!


        แฟชั่นที่เชื่อว่าใครหลายๆคนได้เห็นคนแต่งแฟชั่นนี้ก็จะรู้สึกสบายตาสบายใจ ได้กลิ่นอายของธรรมชาติและความสงบสุขผสมผสานกับความโรแมนติกธรรมดาที่แสนพิเศษ นั่นก็คือ… แฟชั่นสาวชาวไร่อย่าง “Cottage core”

        Cottage core คือแฟชั่นที่กลับมาได้รับความนิยมในปี 2021 แฟชั่นสาวชาวไร่มีองค์ประกอบหลายอย่างที่เน้นชัดคือในส่วนขององค์ประกอบภาพที่ถ่ายออกมาให้ได้ mood and tone ที่ทำให้นึกถึงสาวชาวไร่ แต่ไม่ใช่สาวชาวไร่แบบที่เราเห็นกันจริงๆหรอกนะคะ เป็นสาวชาวไร่ตามเทพนิยายต่างๆ ที่ไม่ได้สมจริงแต่ออกจะเป็นโลกแห่งความฝัน แต่งตัวสวยๆเช้ามาไปเก็บดอกไม้ รดน้ำต้นไม้ ตกบ่ายอาจะมีไปรีดนมวัวน้อย ตอนเย็นก็ปูเสื่อปิกนิก จิบน้ำชาน้ำส้มพร้อมกับอ่านหนังสือคู่ใจ ดังนั้น พร็อพที่ใช้ในการจัดองค์ประกอบภาพจึงสำคัญ

โดยไอเทมการแต่งตัวที่ต้องมีในแฟชั่นนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่หาซื้อได้ยากอะไร อยู่ที่การเลือกมาแมทช์ของเราว่าจะออกมาในลุคแบบนั้น ถ้าใครนึกไม่ออกขอนำเสนอการแต่งตัวของซินเดอเรลล่าที่เป็นนางซินอยู่ที่บ้านกับแม่เลี้ยงใจร้าย ทั้งนี้ลุคนี้มีทั้งสาวหวานไปเลยหรือหวานซ่อนเปรี้ยว เท่ๆก็ยังได้ จุดเด่นที่ต้องมีในแฟชั่นนี้สามารถแต่งได้หลายเลเวล จะเป็นสาวชาวไร่หรือสาวใช้ที่เป็นเหมือนเจ้านายตัวเอง หรือสาวชาวไร่ลูกคนเล็กคุณหนูของบ้าน หรือจะเป็นคุณหญิงคุณนายที่มาใช้เวลาว่างปิกนิกในสวนกับตัวเองสวยๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะเนรมิตให้ตัวเองเป็นแบบไหนก็ตามใจชอบได้เลยค่ะ

  • เดรสกระโปรงยาว แขนยาว

  • ผ้ากันเปื้อน

  • เสื้อกั๊ก

  • คอร์เซ็ท

  • เครื่องประดับ หมวก ผ้าโพกหัว ถุงมือ รองเท้า สร้อย ตะกร้าสาน

         ที่สำคัญคือโทนสีเสื้อผ้าจะไม่ฉูดฉาด มีลายดอกไม้ได้นิดหน่อยพอส่งให้เป็นสาวหวาน เน้นไปที่สีโทนเย็นเรียบๆตัดกับสีขาว ส่วนใหญ่จะเป็นการใส่ชุดเซทที่จัดมาเรียบร้อยเสริมด้วยเครื่องประดับตามยศถาที่อยากจะเป็น อยากเป็นคุณหญิงก็เลือกหมวกทรงสวยสวมคู่กับถุงมือลูกไม้บ่งบอกความลูกคุณหนูคุณใจผู้ดีโรแมนติก ถ้าเลือกเป็นผ้าโพกหัวก็จะมาพร้อมกับตะกร้าสานเดินเก็บดอกไม้ แบบนี้เป็นต้นค่ะ

ขอฝากอีกนิดว่าแฟชั่นนี้ถ้าแต่งแล้วไปถ่ายรูปตามสวนดอกไม้ บอกได้เลยว่าคุณจะเป็นสาวชาวไร่อย่างสมบูรณ์แบบ อย่าลืมจัดองค์ประกอบภาพจัดแสงให้โรแมนติกชวนฝันกันด้วยนะคะ รับรองว่าปังปุริเย่แน่นอน



        เดินทางมาถึงแฟชั่นสุดท้ายเชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยใส่กันมาแล้ว และมีชื่อเรียกให้น้องกันสั้นๆว่าลายดอก ประเทศไทยเราเองมีช่วงนึงที่ฮิตใส่เดรสดอกเดซี่กันทั่วบ้านทั่วเมือง ชื่อของแฟชั่นเทรนด์นี้เรียกว่า “Floral” ตรงตามตัวเลยค่ะนั้นก็คือดอกไม้

       แฟชั่นนี้มีจุดเด่นชัดเจนคือการสวมใส่เสื้อผ้าที่มีลายดอก ดอกชัดเจน จะเลือกสรรเป็นเดรสดอกไม้ยาว หรือกระโปรงดอกไม้คู่กับเสื้อสีเรียบๆ หรือเสื้อดอกไม้คู่กับกระโปรงสีเรียบก็ได้ค่ะ ขอแค่จุดเด่นของลุคนี้คือมีดอกไม้ที่คนเห็นมาแต่ไกล ว่าดอกแบบตะโกน!!! เป็นแฟชั่นที่ไม่ว่าใครก็สามารถแต่งออกมาได้อย่างสดใสสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นกันตายคิดอะไรไม่ออกจัดลายดอกไปเลยสิคะ 

  • ลายดอกไม้ ดอกเล็กดอกใหญ่

  • เดรสยาว,สั้น

  • กระโปรง

  • เสื้อ

  • ดอกไม้ทัดหู 

         ทั้งนี้จากแฟชั่นด้านบนที่ยกมาทั้งหมด 5 เทรนด์จะเห็นได้ว่ามันมีความทับซ้อนกันอยู่ว่าบางลุค หลายคนอาจะงงๆ แต่งออกมาแล้วจะเรียกแฟชั่นไหนกันแน่ หรือถ้าใส่แบบนี้เพิ่มแบบนี้เข้าไปก็เปลี่ยนแนวสิ แบบนั้น ก็ขอแนะนำให้คงจุดเด่นหลักๆของแฟชั่นนั้นไว้ค่ะ ดึงจุดเด่นหลักๆมาก่อนและใส่ความตัวเองลงไปในลุคที่แต่ง แค่นี้ก็เป็นสาวแฟชั่นในแบบของตัวเองที่ดูดีมีสไตล์สุดแสนจะน่าค้นหาแล้ว อยากให้ทุกคนที่ไม่กล้าแต่งตัว ลุกขึ้นมาสนุกกับมันกันนะคะ ทุกคนมีดีในแบบของตัวเอง และทุกคนเป็นคนสวยค่ะ! 


ขอบคุณภาพจาก Pinterest


Share this