52 เฮิรตซ์…คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน
วาฬ 52 เฮิรตซ์คือวาฬบาลีนเพียงตัวเดียวในโลกที่ถูกค้นพบในปีค.ศ.1989 ที่ส่งเสียงด้วยคลื่นความถี่สูง จนวาฬตัวอื่นๆไม่ได้ยิน (วาฬปกติจะใช้ความถี่ที่ 12-25 Hz ในการสื่อสารกัน) โดยทหารเรืออเมริกันได้ค้นพบคลื่นความถี่นี้แทรกเข้ามาในเครื่องรับสัญญาณของกองทัพ ความแปลกก็คือคลื่นความถี่อยู่ในช่วง 52Hz ซึ่งต่างไปจากช่วงความถี่ที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใช้สื่อสารกันภายใต้ท้องทะเล
มันไม่อาจติดต่อกับวาฬตัวไหนบนโลกนี้ได้ จึงไม่มีทั้งฝูง ทั้งเพื่อน และไม่มีคู่ครอง ในทางกลับกันวาฬตัวอื่น ๆ ก็ไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของมันด้วยเช่นกัน
เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงเพื่อตามหาใครสักคนที่มีคลื่นความถี่ตรงกับเรา พบกับเรื่องราวอบอุ่นหัวใจที่จะทำให้คุณหันมาใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น
จากหนังสือ 52ヘルツのクジラたち(52 เฮิรตซ์…คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน) สู่จอภาพยนตร์
ชีวิตของคิโกะเป็นดังเช่นวาฬ 52 เฮิรตซ์ ที่ไม่ว่าพยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตน ถูกครอบครัวผลักไสทั้งยังไม่มีใครเข้าใจ เธอจึงตัดสินใจพาตัวเองออกมาจากอดีตอันขมขื่นและย้ายมาอยู่ในเมืองเล็กๆ ริมทะเลของจังหวัดโออิตะ เธอก็ได้พบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อมูชิ(แมลง)ซึ่งถูกแม่แท้ๆทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด(เอาบุหรี่จี้ลิ้นตั้งแต่ยังเด็ก) แต่ไม่ว่าจะพยายามพูดคุยเท่าไร เสียงของเธอก็เหมือนจะส่งไปไม่ถึง
คิโกะจากคนที่ไร้จุดหมาย เคยคิดอยากฆ่าตัวตาย มุ่งมั่นที่จะ ทำอะไรเพื่อเด็กน้อยคนนี้ ด้วยความที่ไม่ยอมพูดจาจึงตั้งชื่อให้ว่า “ห้าสิบสอง” เพราะคิโกะเองเวลาที่เศร้าและนอนไม่หลับจะเปิดเสียงวาฬ 52hzฟัง
ภารกิจการตามหาญาติพี่น้องของห้าสิบสองจึงเริ่มขึ้น ระหว่างทาง คิโกะเองไม่ได้ช่วยแค่ห้าสิบสอง แต่เธอก็กำลังเยียวยาตัวเองด้วยเช่นกัน ในขณะที่เธอเป็นฝ่ายที่รับฟังเสียงที่ไม่มีใครแม้แต่จะสนใจของเด็กน้อย เสียงของเธอก็ได้เด็กน้อยคนนี้มารับฟังเธอเช่นกัน
เราเชื่อว่าหลายๆ คนต่างเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองเหงาเปล่าเปลี่ยว ไร้เพื่อนฝูง ไร้คนเข้าใจเหมือนวาฬตัวนี้ บางคนอาจยอมแพ้และเลือกที่จะเลิกเปล่งเสียงไปแล้ว ในขณะที่บางคนยังคงกอดความหวังเสี้ยวเล็กๆ ว่าจะได้พบเจอใครสักคนที่มีคลื่นความถี่ตรงกันเอาไว้ และเปล่งเสียงต่อไป ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเสียงของวาฬเหงา2ตัวนี้จะสามารถสื่อถึงกันได้หรือไม่ เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงลำพังเพื่อตามหาใครสักคนที่มีคลื่นความถี่ตรงกับเรา